คืนสู่ชีวิตและธรรมชาติ_กลับคืนสู่พื้นที่ด้านใน
Deep Ecology & Work That Reconnect
๑๕ – ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒(ครั้งที่ ๑)
และ
๑ – ๓ มีนาคม ๒๕๖๒ (ครั้งที่ ๒)
การเรียนรู้ในสามวันนี้เป็นการเรียนรู้ที่จะนำเราเข้าไปสำรวจตรวจตราโลกทัศน์และระบบคุณค่าที่เรายึดถืออยู่ภายในทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว เป็นการเรียนรู้เพื่อให้เกิดการตระหนักรู้ว่าการเลือกใช้ชีวิตไม่ว่าแบบไหนย่อมจะอยู่บนพื้นฐานของคุณค่าบางอย่างที่เรายึดถือซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วเราจะไม่รู้ตัวหรือไม่ได้ระลึกถึงมันอยู่ตลอดเวลา
ในบางครั้งเราเกิดความสับสนขัดแย้งภายในตนเองกับวิถีชีวิตที่เป็นอยู่ ส่วนหนึ่งนั้นก็เป็นผลมาจากวิถีชีวิตนั้นจริงๆแล้วไม่ได้สอดคล้องกับแก่นสาร การให้คุณค่าความหมายแก่ชีวิตที่อยู่ลึกๆ ภายในตัวเรา
นอกจากการสืบค้น สำรวจตรวจตราดูแก่นคุณค่าในตัวเรา และการสำรวจตรวจตราดูโลกทัศน์ มุมมอง การให้คุณค่าและความหมายต่อชีวิตและธรรมชาติแล้ว การเรียนรู้ในสามวันนี้ก็จะรวมถึงการสำรวจดูความสัมพันธ์ระหว่างเรากับธรรมชาติที่อยู่บนพื้นฐานของโลกทัศน์แบบแยกส่วนและโลกทัศน์แบบองค์รวม
หากเรามีโลกทัศน์แบบแยกส่วน ไม่ว่าเราจะอยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติขนาดไหนหรือมีอิสระในการใช้ชีวิตอย่างไร เราก็ยังอาจจะรู้สึกแยกขาดและโดดเดี่ยวอยู่นั่นเอง การบ่มเพาะหรือฟื้นคืนโลกทัศน์แบบองค์รวมและการค้นหาความสัมพันธ์ระหว่างเรากับโลกจึงเป็นส่วนหนึ่งของการค้นหาชีวิตที่เติมเต็ม
สามวันนี้เป็นการคืนสู่ชีวิตและธรรมชาติจากด้านใน
กระบวนการเรียนรู้
การเรียนรู้ในสามวันนี้จะอยู่บนพื้นฐานปรัชญานิเวศวิทยาแนวลึก(Deep Ecology) และใช้กระบวนการเรียนรู้หลายแบบ ทั้งแบบใช้กิจกรรมผ่านประสบการณ์โดยกระบวนการ Works That Reconnect ซึ่งเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้นโดยโจแอนนา เมซี่ นักกิจกรรม และนักเคลื่อนไหวทางสังคมชาวพุทธ ที่พัฒนากระบวนการเรียนรู้นี้ขึ้นเพื่อนำเรากลับไปค้นหาความสัมพันธ์ระหว่างเรากับโลก เห็นความสัมพันธ์เชื่อมโยงระหว่างสรรพสิ่งกับตัวเรา บ่มเพาะความรักและความรู้สึกรู้คุณต่อชีวิต เห็นคุณค่าและความหมายของการมีชีวิตอยู่ เกิดความเมตตากรุณาต่อความทุกข์ของโลก และสร้างแรงจูงใจให้เราเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีงาม
นอกจากการเรียนรู้โดยใช้สมองและหัวใจแล้ว ในสามวันนี้ก็จะมีช่วงเวลาที่เราจะลงมือทำงานในสวน เพื่อสัมผัสผืนดิน สังเกตและปฎิสัมพันธ์กับธรรมชาติผ่านฐานกายอีกด้วย